คงจะเคยเห็นกันมาบ้างไม่ว่าจะกับตัวเองหรือจากในภาพยนตร์ต่างๆว่าคาสิโนเป็นธุรกิจที่ดูร่ำรวยและยิ่งใหญ่ขนาดไหน ถึงขั้นว่ามีโรงแรมเป็นของตัวเองหรือกว่าค่อนเมืองมีการสร้างธุรกิจและบริการเพื่อรองรับผู้ที่เข้ามาเล่นการพนันเป็นหลักเลยก็มี เพราะเล่นคาสิโน ได้เงินจริงอยู่แล้ว ทั้งฝ่ายผู้เล่นและเจ้าของ ก็น่าจะแปลว่าคาสิโนและธุรกิจการพนันเป็นอะไรที่มีเม็ดเงินหมุนอยู่จำนวนมหาศาลใช่หรือไม่ หรือเป็นเพราะมีธุจกิจสีเทามาข้องเกี่ยว ถึงได้ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนั้นกันแน่
อันที่จริงเมืองที่ดังและเป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองคนบาปหรือเมืองแห่งการพนันอย่าง Las Vegas แต่เดิมนั้นเป็นทะเลทรายมาก่อน และด้วยตัวเมืองนั้นก็ไม่ได้มีทรัพยากรหรืออะไรที่น่าดึงดูดอะไรเลย แต่ว่าเมืองนี้ หรืออาจพูดรวมไปถึงรัฐ Nevada นั้นมีประวัติกับการพนันมาอยากมากมาย มีถึงกระทั่งคาสิโนตั้งอยู่ในคุกก็มี ถึงจะไม่ได้ถูกกฎหมายแต่ก็เป็นที่รู้กัน จากเรื่องพวกนั้นนี่เองที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีการผลักดันกฏหมายเกี่ยวกับการพนันและอนุญาติให้มีธุรกิจประเภทนี้ได้อย่างถูกกฏหมายเป็นแห่งแรกๆ เพราะพวกเขาเห็นได้ว่าธุจกิจนี้สร้างอาชีพ รายได้ และนำเงินเข้าสู่รัฐได้มากขนาดไหน นอกจากรายได้ในคาสิโนโดยตรงแล้ว การที่ใช้การพนันเป็นจุดดึงดูด ก็สามารถดึงนักเดินทางมาได้จากทุกมุมโลก และเมื่อมีนักเดินทางก็ต้องมีโรงแรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และอื่นๆอีกมากมาย นี่ทำให้เมืองทั้งเมืองสามารถที่จะใช้ธุรกิจการพนันเป็นรายได้หลักได้
ในแง่ของตัวกำไรของคาสิโน ถ้าวัดจากเรื่องของเงินพนันโดยตรงแล้วก็เหมือนจะไม่ได้มากมายอะไรเท่าไหร่ โดยจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3~5% ของจำนวนเงินทั้งหมดที่เกิดการได้เสียในคาสิโน อาจจะฟังดูไม่ได้มากมายอะไร แต่ว่าถ้าหากคิดว่ามีเงินถูกเดินพันกันซัก 100 ล้าน ต่อหนึ่งวัน นั่นก็นับเป็นรายได้มหาศาลอยู่เหมือนกัน และแม้แต่สถานที่ๆให้บริการเกมที่ผู้เล่นมีความเสียเปรียบแค่ซัก 1% ผลประกอบการต่อเดือนก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดีอยู่ดี เพราะค่าใช้จ่ายของคาสิโนจะมีแค่ในส่วนของค่าจ้างหนักงาน ค่าสถานที่ และโปรโมชั่นกับบริการอื่นๆเท่านั้น ส่วนสำคัญคือต้องมีเงินหมุนที่มากพอ ที่เหลือก็ไม่ใช่ปัญหา